บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2015

คำแนะนำในการมาแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ตรง

ตอนนี้เราอยู่ฮ่องกงมา 8 เดือนแล้ว ก็พอมีประสบการณ์เจอมากับตัวเองบ้างนิดหน่อย5555 เราเลยอยากจะมาแนะนำคนที่กำลังจะไปแลกเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มาฮ่องกงเท่านั้นนะ เราจะแนะนำเป็นภาพรวมเป็นข้อๆไป มี 7 ข้อ ไปเริ่มกันเล้ยยย 1. ทำอาหารเป็นมั๊ย? โดยปกติแล้วโฮสจะเป็นคนทำอาหารให้เรา แต่คือมันก็ไม่ใช่ว่าโฮสจะมาว่างทำให้เราตลอดไง55 บางทีโฮส อาจจะยุ่งๆ เราเลยต้องทำอาหารกินเอง หรือเวลาเงินหมด อยากประหยัดเงิน การทำอาหารกินที่บ้านสามารถประหยัดเงินได้เยอะเลย ถูกกว่ากินในร้านอาหารด้านนอก ส่วนเรา...เราเป็นคนหนึ่งที่สกิล การทำอาหารอยู่ขั้นต่ำเรี่ยดินสุดๆจริงๆ อยู่ไทยไม่เคยทำกินเองเลย มานี่เลยแบบดิ้นรนหน่อย อยากประหยัดเงินเลยค่อยๆหัดทำอะไรง่ายๆ อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง5555 มีข้อแนะนำสำหรับคนที่ทำอาหารไม่เป็น ก่อนไปแลกเปลี่ยนให้ฝึกทำอาหารไว้เลย ง่ายๆก็พอ เอาให้เอาตัวรอดได้ หรืออาจจะฝึกเมนูอาหารไทยที่ชอบไป พอไปแลกเปลี่ยนจะได้ทำกินเอง ปล.เลือกเมนูดีๆ เอาที่หาวัตถุดิบได้ในต่างประเทศด้วยนะ 2. มาม่าใครว่าไม่สำคัญ เรามีเพื่อนหลายคนเลยที่เอามาม่าติดตัวไปด้วย แต่! เอาไปแค่นิดๆหน่อยๆ 2-3 ซอง บอกเลยว่าไม

Lion Dance

รูปภาพ
ในช่วงตรุษจีนนั้นมีกิจกรรมให้ทำมากมาย หนึ่งในการแสดงที่เป็นที่รู้จักคือ Lion dance หรือ การเชิดสิงโตนั่นเอง จริงๆแล้วที่เมืองไทยก็สามารถหาดูการเชิดสิงโตได้ แต่พอดี Contact person (คนที่คอยดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยน) ของเพื่อนชวนไปดูการเชิดสิงโตด้วยกัน เราก็เลยไปดูด้วย อยากรู้ว่ามันต่างจากที่ไทยไหม แล้วเราก็ไปที่สถานี MTR Mei foo เพราะ Contact person ของเพื่อนเราอาศัยอยู่แถวนี้ สถานที่ที่เราจะไปดูสิงโตกันก็คือที่บ้าน (คอนโด) ของ Contact person จากที่ทราบมา เหมือนทุกๆปีจะมีการเชิดสิงโตให้ดูกันที่นั่นเพราะทางคอนโดจ้างสิงโตมาแสดง เดินไปไม่นานก็ถึงที่คอนโด ละแวกแถวนั้นมีแต่คอนโดแพงๆ ทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ไม่ไกลตัวเมืองจนเกินไป  เราเคยดูการแสดงเชิดสิงโตที่ไทยมาแล้วจากที่โรงเรียน เพราะโรงเรียนเรามีการให้เด็กนักเรียนมาฝึกเชิดสิงโต แต่ก็อย่างว่า ให้นักเรียนกับโปรมาโชว์มันก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว ที่นี่แสดงได้โลดโผนกว่า5555 แบบกระโดดได้สูงกว่า มีกำลังมากกว่า นี่เป็นรูปที่เราถ่ายมา สิงโตน่ารักจัง55 เหมือนลูกหมาเลย ขยับหูได้ด้วย รูปสุดท้ายคนที่ยืนอยู่ข้างเราเป็นเพื่อนเรา

พลุวันตรุษจีนในฮ่องกง

รูปภาพ
เราและเพื่อนๆนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สนิทประมาณ 10 คน ได้ไปดูพลุวันตรุษจีนด้วยกัน พวกเราโชคดีมากเพราะได้บัตรดูพลุให้ไปดูได้ที่ดาดฟ้าของห้าง Habour City แถวๆ Tsim sha tsui ซึ่งเป็นทำเลที่ดี เห็นชัดมากจริงๆ พวกพวกเราได้บัตรมาจากโฮสพ่อของเพื่อนชาวเยอรมันที่สนิทด้วย โฮสพ่อของเพื่อนเป็นผู้จัดการห้าง Habour City คือรวยมากจริงๆ เราเคยไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนนี้มา มีส่วนของพื้นบ้านที่เป็นกระจก แล้วมีรถไฟวิ่งด้านล่าง เราเห็นแล้วแบบ OMG คือเริดเวอร์จ้า555 มีสัตว์เลี้ยงแปลกๆด้วย เป็น เต่าตัวใหญ่ๆ 2 ตัว มีแมงมุม และยังมีจระเข้อีกด้วย (จระเข้ตัวเล็กๆ แต่ก็ยาวเกือบฟุต เพื่อนเราตั้งชื่อให้เรียบร้อยเลยว่า ปีเตอร์ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่เห็นหน้าแล้วเหมาะกับชื่อนี้ดี ฮ่าๆ) โอเค เริ่มนอกเรื่องแล้ว กลับมาที่พลุกันเถอะ เรามีโอกาสได้ไปดูพลุตอนวันปีใหม่ของฮ่องกงมาแล้ว แต่คราวก่อนเราได้แต่ยืนมองจากถนนเฉยๆ ทีนี้ได้ทำเลดีเลยจัดเลย ถ่ายรูปเยอะแยะ พลุคราวที่แล้วมีความยาวประมาณ 12 นาทีมั้ง (จำไม่ได้ ไม่แน่ใจ55) คราวนี้ยาวประมาณเกือบ 20 นาที เราได้เรียนรู้ว่า ฮ่องกง มีเงินเยอะมาก ถ้าไม่มีเงินเยอะคงไม่สามารถจัดงานที่ยิ่ง

Temple fair Hong Kong

รูปภาพ
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ในช่วงตรุษจีนอีกแล้ว เอเอฟเอสจัดกิจกรรม Temple Fair ให้นักเรียนแลกเปลี่ยนไปดูแห่มังกร เขียนพู่กันจีน ดูโชว์ต่างๆ และมีแต่งชุดจีนด้วย เราก็เอาเลย ลงชื่อ อยากลองอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร แต่ละชุดคือจะมีความหมายชัดเจน เช่น ชุดนี้เป็นชุดของกษัตริย์ ชุดของเจ้าหญิง ชุดนางสนม หรือคนใช้ก็ว่ากันไป ส่วนเราได้ชุดของผู้ชายมาใส่ ต้องเข้าใจว่าคนที่ไปส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ชุดของเราเหมือนจะเป็นคนรับใช้เหมือนกัน แต่ระดับก็ไม่ได้ตำ่ขนาดนั้น55 กิจกรรมในครั้งนี้ถ้าไม่นับการที่ได้แต่งชุดจีนแล้วจะถือว่าน่าเบื่อ เราเลยถ่ายมาแต่รูปที่ได้แต่งตัวกับเพื่อน ในรูปที่สองจะเห็นว่าเรากับเพื่อนอีกคน (ชื่อ Sara มาจากอิตาลี) แต่งตัวเหมือนกัน คือมียศเท่ากัน เรื่องยศเราไม่อยากพูดมากเพราะก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน เดี๋ยวผิด55 สำหรับคนที่จะไปแลกเปลี่ยนที่ฮ่องกงแล้วอยากเข้าร่วมกิจกรรมนี้ แนะนำให้ไปเร็วๆ อาจจะได้เลือกชุดสวยๆก่อนคนอื่นจ้า

Fai chun writing class

รูปภาพ
วันนี้ว่างๆ เลยจะมาย้อนเขียนเรื่องเก่าในช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียนรอคอยเป็นอย่างมาก เพราะช่วงตรุษจีนเป็นเพียงช่วงเดียวที่เราสามารถหยุดเรียนได้อย่างไม่มีอะไรต้องกังวล ช่วงวันหยุดอื่นๆอย่างปีใหม่ หรืออีสเตอร์จะตามมาด้วยการสอบกลางภาคหรือปลายภาค  เอเอฟเอสก็มีกิจกรรมมาให้เราทำอีกแล้วววว นั่นคือการเขียน Fai Chun บางคนอาจจะไม่รู้จัก Fai Chun จริงๆแล้วมันคือข้อความภาษาจีนความหมายดีๆ (ส่วนใหญ่ที่เห็นจะมี 4 ตัวอักษร) ข้อความจะถูกเขียนลงบนกระดาษสีแดงแล้วนำไปติดไว้หน้าประตูบ้านในช่วงตรุษจีน  เหมือนให้สิ่งดีๆเข้ามา และนี่เป็นรูป Fai Chun ที่เราเขียนเอง คุณครูคนสอนชมด้วยว่าเขียนสวย55 หลงตัวเองแปป อิอิ อันสีขาวคือเป็นอันทดลอง คุณครูมีให้ฝึกก่อนด้วย โดยมีลิสต์คำและความหมายมาให้เราเลือกกันเอง ที่เราเขียนไปนี่ก็ลืมความหมายไปหมดแล้ว ใครรู้ช่วยบอกด้วยก็ดี5555 ภาพไม่ค่อยชัดเลยไม่รู้ทำไม อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้กดโฟกัส รูปสุดท้ายที่เห็นคือกับเพื่อนๆที่ไปด้วยกัน มีทั้งอิตาลี เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก และไทยนี่เอง55 หลังจากเขียนเสร็จแต่ละคนก็แยกย้ายกันไป เราไปกับ Jul