คำแนะนำในการมาแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ตรง

ตอนนี้เราอยู่ฮ่องกงมา 8 เดือนแล้ว ก็พอมีประสบการณ์เจอมากับตัวเองบ้างนิดหน่อย5555 เราเลยอยากจะมาแนะนำคนที่กำลังจะไปแลกเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มาฮ่องกงเท่านั้นนะ เราจะแนะนำเป็นภาพรวมเป็นข้อๆไป มี 7 ข้อ ไปเริ่มกันเล้ยยย



1. ทำอาหารเป็นมั๊ย?

โดยปกติแล้วโฮสจะเป็นคนทำอาหารให้เรา แต่คือมันก็ไม่ใช่ว่าโฮสจะมาว่างทำให้เราตลอดไง55 บางทีโฮส อาจจะยุ่งๆ เราเลยต้องทำอาหารกินเอง หรือเวลาเงินหมด อยากประหยัดเงิน การทำอาหารกินที่บ้านสามารถประหยัดเงินได้เยอะเลย ถูกกว่ากินในร้านอาหารด้านนอก ส่วนเรา...เราเป็นคนหนึ่งที่สกิล การทำอาหารอยู่ขั้นต่ำเรี่ยดินสุดๆจริงๆ อยู่ไทยไม่เคยทำกินเองเลย มานี่เลยแบบดิ้นรนหน่อย อยากประหยัดเงินเลยค่อยๆหัดทำอะไรง่ายๆ อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง5555 มีข้อแนะนำสำหรับคนที่ทำอาหารไม่เป็น ก่อนไปแลกเปลี่ยนให้ฝึกทำอาหารไว้เลย ง่ายๆก็พอ เอาให้เอาตัวรอดได้ หรืออาจจะฝึกเมนูอาหารไทยที่ชอบไป พอไปแลกเปลี่ยนจะได้ทำกินเอง ปล.เลือกเมนูดีๆ เอาที่หาวัตถุดิบได้ในต่างประเทศด้วยนะ


2. มาม่าใครว่าไม่สำคัญ

เรามีเพื่อนหลายคนเลยที่เอามาม่าติดตัวไปด้วย แต่! เอาไปแค่นิดๆหน่อยๆ 2-3 ซอง บอกเลยว่าไม่มีทางพอ ไปอยู่ตั้ง 10 เดือนนะทุกคน แค่ 3 เดือนแรกก็คิดถึงอาหารไทยจะแย่อยู่แล้ว แนะนำให้เอาไปห่อใหญ่ที่มันมี 10 ซองย่อย (ถ้ามีพื้นที่กระเป๋าพอ) ถ้าบ้านโฮสที่ได้อยู่ในเมืองหน่อยก็อาจจะหาซื้อได้ แต่ราคาก็นะ...ทำใจ มีเพื่อนบางคนที่ได้คนที่บ้านส่งมาม่ามาให้ก็มี อันนี้ก็แล้วแต่คนตัดสินใจ


3. อย่าคาดหวังเยอะ

ไม่ใช่คาดหวังไม่ได้ แต่อย่าคาดหวังเยอะจนเกินไป อย่าคิดว่าการแลกเปลี่ยนมันจะสวยหรูไปซะทุกอย่าง เหมือนได้มาเที่ยว  ก่อนมาเราก็ได้อ่านบล็อคคนอื่นนี่แหละ บอกว่าโฮสพาไปเที่ยวไกลๆไม่ต้องออกเงินอะไรเลย เราก็แบบมโนไง ว่าดีจังมีคนออกค่านู่นนี่ให้ด้วย ปรากฎเอาเข้าจริงๆแล้วไม่ใช่เลย อะไรที่เกี่ยวกับเงินเราต้องออกเองหมด (ยกเว้นอาหาร) ตอนไปทำกิจกรรมต่างๆกับโฮส เราต้องออกค่ากิจกรรมเองตลอด บางทีก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว โฮสพ่อดูไม่ซีเรียสเรื่องเงินเท่า  โฮสแม่ แต่ก็นะ...เศรษฐกิจไม่ดีก็ว่ากันไป


4. อย่าเปลืองเวลา

เปลืองเวลาในที่นี้หมายถึงการเปลืองเวลาไปกับซีรีย์ มือถือ หรือสิ่งต่างๆที่จะปิดกั้นเราจากการไปเจอสิ่งใหม่ๆ ช่วงแรกๆที่เรามาก็มีติดซีรีย์ ติดมือถือบ้างเหมือนกัน ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน แต่พอรู้ตัวแล้ว เราก็เริ่มลดการดูลง5555 ออกจากบ้านมากขึ้น ไปเจอกับเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยน ได้กินข้าว คุยกัน เท่านี้ก็ดีแล้ว ทุกอย่างนั้นดีกว่าการหมกตัวอยู่ในบ้านแน่นอน


5. เซย์เยส

ไม่ว่าจะมีคนมาชวนไปทำอะไร กินอะไร ให้เซย์เยสไว้ก่อน คือไม่ลองก็ไม่รู้ใช่มั๊ยละ บางอย่างเราอาจจะคิดว่าแปลก แต่จริงๆแล้วมันอาจจะดีก็ได้ไง อย่าเอาแต่ใจ มองโลกในแง่ดีไว้แล้วชีวิตจะดีขึ้น ถ้าเราลองแล้วไม่ชอบ ก็คิดซะว่าดีแล้วที่ได้ลอง ถ้าลองแล้วชอบก็ยิ่งดีเลย วันหลังก็ลองอีก เราจะได้เปิดโลกทัศน์มากยิ่งขึ้น ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ มีกรณีของเพื่อนเราเป็นคนรัสเซีย สนิทเลยแหละ คือไม่รู้เจ้แกไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ไหนมา คงไม่อร่อยมั้งเลยบอกไม่ชอบ จากนั้นก็ไม่กินก๋วยเตี๋ยวอีกเลย เหมือนตัดสินไปเลยอะว่ามันไม่ดี ไม่ชอบ ปิดกั้นตัวเองออกจากดินแดนอาหารจานเส้น (ไม่นับพวกสปาเก็ตตี้) ทั้งๆที่จริงๆแล้วเมนูเส้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายจริงๆ ถ้าไม่ชอบทุกอย่างที่เป็นเส้นก็แล้วไป แต่การที่เคยกินนิดหน่อยแล้วด่วนตัดสินเลยอันนี้ไม่ดี เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆบ้าง


6. ปัญหามีไว้แก้ไข

ถ้ามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเรื่องโฮสหรือเรื่องอะไร ขอให้ลองพยายามแก้ไขด้วยตัวเองก่อน เข้าใจนะว่าบางทีเวลามีปัญหาเราจะชอบไลน์ไปบอกพ่อแม่ที่เมืองไทย ในความเป็นจริงแล้ว พ่อแม่ก็ช่วยได้แค่คอยให้กำลังใจ ไม่ได้มาอยู่สถานการณ์เดียวกันมันคงช่วยลำบาก ทางที่ดีควรปรึกษาโฮส Support contact หรืออาจจะคุยกับเพื่อนๆที่โรงเรียนก็ได้ จำไว้อย่างว่าพ่อแม่จะกังวลมากเวลาเราบ่นปัญหาของเราให้ฟัง จำได้ว่าตอนเรามาช่วงแรกๆยังปรับตัวไม่ได้ ที่บ้านมีกฏมากมาย ตอนนั้นเรากลัวมาก กลัวจะอยู่ไม่ได้ เครียด ร้องไห้เลยจ้า ตั้งแต่วันแรกที่เจอโฮส (แอบร้องอยู่ในห้องคนเดียวโฮสไม่เห็น) จากนั้นเราก็เฟสทามไปคุยกับแม่ ทีนี้แหละแม่เราเลยเครียดตามเลย เพราะฉะนั้น จงลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน ไว้ให้พ่อแม่ที่เมืองไทยเป็นคนสุดท้ายที่เราจะบอกปัญหาให้ฟังนะ สู้ๆ


7. ถามคำถามและการสังเกต

เนื่องจากเราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เราไม่รู้เรื่องวัฒนธรรมหรือระเบียบของที่นี่ เราเลยถามคำถามได้เสมอ จำไว้ว่าต้องถาม ถ้าไม่แน่ใจถามไว้ก่อนก็ไม่ผิดอะไร แต่ด้วยความที่เราเป็นคนไทย ปัญหาหลักอยู่ตรงที่คนไทยมักจะขี้เกรงใจ ไม่อยากถาม กลัวคนอื่นรำคาญ กลัวนู่นนี่สารพัดไปหมด มีอีกวิธีที่ช่วยได้คือ การสังเกต จ้าาาา เคยได้ยินสำนวน "เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม" มั๊ย นี่แหละใช่เลย ลองสังเกตคนที่นี่ดูว่าเค้าทำกันอย่างไรแล้วก็ทำตาม เช่น ที่ฮ่องกงเวลากินข้าวจะกินในถ้วย ถ้าอาหารมีกระดูกก็จะใส่ถ้วยไม่สะดวก คนที่นี่เลยเอากระดูกวางไว้บนโต๊ะ ข้างๆถ้วยข้าวเลย คนที่นี่ถือว่าไม่ผิด ถ้าเป็นที่ไทยเราอาจจะคิดว่าสกปรก เราก็ต้องหัดสังเกตแล้วลองประยุกต์ทำตามดู แล้วชีวิตจะง่ายขึ้น


เย่ๆ ​และนี่คือคำแนะนำของเราสำหรับคนที่กำลังจะไปแลกเปลี่ยน หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะ บ้ายบายยยย





















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แนะนำขนมของฝากจากฮ่องกง

กีฬาสีโรงเรียนในฮ่องกง

พฤติกรรมแย่ๆ