บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2015

ประสบการณ์ตรง นักเรียนแลกเปลี่ยน การทะเลาะ โฮสน้อง!

ปกติแล้วเรากับโฮสน้องสาวจะเข้ากันได้ดีมาก แบบพูดคุยกัน หยอกล้อ ทำนู่นทำนี่ด้วยกันตลอด โฮสแม่ก็ชอบฝากโฮสน้องไว้กับเรา ให้เราพาไปนู่นไปนี่ด้วยกัน เราก็โอเค พาโฮสน้องไปกับเพื่อนเอเอฟเอส บ้าง ไปกันเองบ้าง แต่แล้วเราก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้โฮสน้องโกรธเรามากๆ ทั้งๆที่ปกติแทบจะไม่มีปัญหาอะไรกันเลย เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเอง เรากับเพื่อนๆนักเรียนแลกเปลี่ยนนัดกันไปเล่นโบว์ลิ่งหลังเลิกเรียน โฮสน้องเหมือนอยากไปเราก็พาไปด้วยปกติไม่มีอะไร น้องเรากับเพื่อนๆนักเรียนแลกเปลี่ยนคนอื่นๆก็รู้จักกันอยู่แล้วเลยพูดคุยกันปกติ ไม่อึดอัดอะไรเลย สนิทกันด้วยซ้ำเพราะโฮสน้องเราคุยเก่งมาก เข้ากับคนอื่นได้ง่ายสุดๆ หลังจากโยนโบว์เสร็จ เราก็ไปกินข้าวกัน โฮสน้องเราชอบกินแมคโดนัลแต่เราไม่ชอบเลยแยกกันไป โฮสน้องเราไปกับเพื่อนเยอรมันอีก 2 คน ชื่อ ไซม่อน กับ ซายู เราไปกินร้านข้าวกับเพื่อนๆที่เหลือคนอื่นๆ คือ ซาช่า (รัสเซีย) นิคลัส (เยอรมัน) อูนา (นอร์เวย์) และคนรู้จักอีกคนชื่อ ปารีส (เป็นเพื่อนของรีเทิร์นนีอีกทีซึ่งเป็นคนฮ่องกง ชื่อแปลกจริงๆ5555) โฮสน้อง ไซม่อน และซายูกินเสร็จก่อนเพราะเป็นแมคโดนัล ไซ

แมลงสาบในห้องนอน ฮาๆ

โอเค เราจะมาอัพเดตเรื่องประสบการณ์ฮาๆของเรา เหตุเพิ่งเกิดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่เราเอามาลงบล็อคมีอยู่เหตุผลเดียวเลยคือกลัวลืม5555 เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน มันเป็นวันธรรมดามากๆหลังเลิกเรียน เราก็ไปเรียนเปียโน (เราขอโฮสเรียนเปียโนเพราะเล่นอยู่แล้วที่ไทย กลัวกลับไปละนิ้วแข็ง) จากนั้นก็กลับบ้านไม่มีอะไร แล้วเราก็มานั่งเล่นโน้ตบุ๊คบนเตียง กลิ้งๆนอนๆอยู่แล้วก็ได้ยินเสียงอะไรหึ่งๆที่หน้าต่าง พอดีเราเปิดหน้าต่างในห้องนอนทิ้งไว้ (แต่ปิดตัวมุ้งลวดอยู่นะ) เราก็หันไปเจอ!!!! แมลงสาบบินอยู่จ้า OMG เราแบบแทบกรี้ด ห้องนอนเราอยู่ชั้น 3 นะ อีนี่มันบินขึ้นมาได้สูงขนาดนี้เลยหรองง55 คือเรากลัวมาก ณ จุดนั้น ตอนเด็กๆถ้าเจอแมลงสาบในห้องน้ำนี่วิ่งหนีพรวดตะโกนเรียกคนมาเลย นึกในใจ โหยเรานี่โชคดีนะ มุ้งลวดปิดอยู่มันเข้ามาไม่ได้ พอคิดได้ดังนั้นก็ยังคงเล่นต่อไป ไม่ได้สนใจเจ้าแมลงอีก จากนั้นเราก็ไปกินข้าว อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมตัวนอนละ จะเปิดแอร์แล้วเวลาจะเปิดเนี่ย มันก็ต้องปิดหน้าต่างถูกมั๊ย ตอนนั้นไม่ได้ยินเสียงหึ่งๆแล้ว เลยนึกว่าแมลงสาบคงไม่อยู่ ตอนปิดหน้าต่างก็ไม่เห็นตัวอะไรบินเข้ามานะ ไปๆมาๆได้ยินเสี

ตะลุยแดนปลาดิบ ณ โอกินาว่า กับโฮสแฟมิลี่ 1

รูปภาพ
เหตุการณ์มันเริ่มต้นที่นี่... กำลังเดินเล่นอยู่กับซาช่า เพื่อนชาวรัสเซีย กริ้งๆๆ (เสียงมือถือเราเอง) เห้ยโฮสโทรมา! ตกใจสิ ปกติ  โฮสไม่ค่อยโทรหาเท่าไหร่ เราก็นึกว่างานเข้า ไปทำเรื่องอะไรไว้ 5555 บทสนทนาของเรากับโฮสวันนั้นมันเป็นประมาณนี้ โฮสแม่ : ตอนนี้อยู่ที่บริษัททัวร์อาเจนซี่ กำลังจะจองตั๋วไปญี่ปุ่น โอกินาว่า เรา : อ๋อ ค่ะๆ โฮสแม่ : จะไปด้วยมั๊ย ต้องตัดสินใจตอนนี้เลย ด่วนมาก จะจองแล้ว เรา : (คิดในใจ ห้ะ อะไร ต้องตัดสินใจเลยเหรอด่วนไปนะบางที) ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่อะคะ โฮสแม่ : xxxx ฮ่องกงดอลล่าร์ (จำตัวเลขชัดเจนไม่ได้ แต่ราคาถือว่าโอเค) เรา : ไปช่วงไหนอะคะ โฮสแม่ : ช่วงตรุษจีน เป็นวันหยุด เรา : โอเคค่ะ ไปๆ (ตัดสินใจเร็วมาก ยังไม่ได้ถามแม่เลยจ้า) โฮสแม่ : งั้นจองละนะ เรา : ค่ะๆ จากนั้นก็กรี้ดแตกเลย โอ้เยยยยยย เรากำลังจะไปโอกินาว่า~~ ไลน์บอกพ่อแม่แปป เรา : โฮสชวนไปญี่ปุ่น โอกินาว่า หนูไปนะ ราคา xxxx ฮ่องกงดอลล่าร์ ไปช่วงปิดวันตรุษจีน พ่อ : ราคาถือว่าถูกกว่าไปจากไทย  แม่ : อยากไปหรือเปล่า เรา : อยากสิ แม่ : ไปก็ได้ โฮสเค้าอุตส่าห์ชวน ทำกิจกรรมกับโ

คำแนะนำในการมาแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ตรง

ตอนนี้เราอยู่ฮ่องกงมา 8 เดือนแล้ว ก็พอมีประสบการณ์เจอมากับตัวเองบ้างนิดหน่อย5555 เราเลยอยากจะมาแนะนำคนที่กำลังจะไปแลกเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มาฮ่องกงเท่านั้นนะ เราจะแนะนำเป็นภาพรวมเป็นข้อๆไป มี 7 ข้อ ไปเริ่มกันเล้ยยย 1. ทำอาหารเป็นมั๊ย? โดยปกติแล้วโฮสจะเป็นคนทำอาหารให้เรา แต่คือมันก็ไม่ใช่ว่าโฮสจะมาว่างทำให้เราตลอดไง55 บางทีโฮส อาจจะยุ่งๆ เราเลยต้องทำอาหารกินเอง หรือเวลาเงินหมด อยากประหยัดเงิน การทำอาหารกินที่บ้านสามารถประหยัดเงินได้เยอะเลย ถูกกว่ากินในร้านอาหารด้านนอก ส่วนเรา...เราเป็นคนหนึ่งที่สกิล การทำอาหารอยู่ขั้นต่ำเรี่ยดินสุดๆจริงๆ อยู่ไทยไม่เคยทำกินเองเลย มานี่เลยแบบดิ้นรนหน่อย อยากประหยัดเงินเลยค่อยๆหัดทำอะไรง่ายๆ อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง5555 มีข้อแนะนำสำหรับคนที่ทำอาหารไม่เป็น ก่อนไปแลกเปลี่ยนให้ฝึกทำอาหารไว้เลย ง่ายๆก็พอ เอาให้เอาตัวรอดได้ หรืออาจจะฝึกเมนูอาหารไทยที่ชอบไป พอไปแลกเปลี่ยนจะได้ทำกินเอง ปล.เลือกเมนูดีๆ เอาที่หาวัตถุดิบได้ในต่างประเทศด้วยนะ 2. มาม่าใครว่าไม่สำคัญ เรามีเพื่อนหลายคนเลยที่เอามาม่าติดตัวไปด้วย แต่! เอาไปแค่นิดๆหน่อยๆ 2-3 ซอง บอกเลยว่าไม

Lion Dance

รูปภาพ
ในช่วงตรุษจีนนั้นมีกิจกรรมให้ทำมากมาย หนึ่งในการแสดงที่เป็นที่รู้จักคือ Lion dance หรือ การเชิดสิงโตนั่นเอง จริงๆแล้วที่เมืองไทยก็สามารถหาดูการเชิดสิงโตได้ แต่พอดี Contact person (คนที่คอยดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยน) ของเพื่อนชวนไปดูการเชิดสิงโตด้วยกัน เราก็เลยไปดูด้วย อยากรู้ว่ามันต่างจากที่ไทยไหม แล้วเราก็ไปที่สถานี MTR Mei foo เพราะ Contact person ของเพื่อนเราอาศัยอยู่แถวนี้ สถานที่ที่เราจะไปดูสิงโตกันก็คือที่บ้าน (คอนโด) ของ Contact person จากที่ทราบมา เหมือนทุกๆปีจะมีการเชิดสิงโตให้ดูกันที่นั่นเพราะทางคอนโดจ้างสิงโตมาแสดง เดินไปไม่นานก็ถึงที่คอนโด ละแวกแถวนั้นมีแต่คอนโดแพงๆ ทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ไม่ไกลตัวเมืองจนเกินไป  เราเคยดูการแสดงเชิดสิงโตที่ไทยมาแล้วจากที่โรงเรียน เพราะโรงเรียนเรามีการให้เด็กนักเรียนมาฝึกเชิดสิงโต แต่ก็อย่างว่า ให้นักเรียนกับโปรมาโชว์มันก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว ที่นี่แสดงได้โลดโผนกว่า5555 แบบกระโดดได้สูงกว่า มีกำลังมากกว่า นี่เป็นรูปที่เราถ่ายมา สิงโตน่ารักจัง55 เหมือนลูกหมาเลย ขยับหูได้ด้วย รูปสุดท้ายคนที่ยืนอยู่ข้างเราเป็นเพื่อนเรา

พลุวันตรุษจีนในฮ่องกง

รูปภาพ
เราและเพื่อนๆนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สนิทประมาณ 10 คน ได้ไปดูพลุวันตรุษจีนด้วยกัน พวกเราโชคดีมากเพราะได้บัตรดูพลุให้ไปดูได้ที่ดาดฟ้าของห้าง Habour City แถวๆ Tsim sha tsui ซึ่งเป็นทำเลที่ดี เห็นชัดมากจริงๆ พวกพวกเราได้บัตรมาจากโฮสพ่อของเพื่อนชาวเยอรมันที่สนิทด้วย โฮสพ่อของเพื่อนเป็นผู้จัดการห้าง Habour City คือรวยมากจริงๆ เราเคยไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนนี้มา มีส่วนของพื้นบ้านที่เป็นกระจก แล้วมีรถไฟวิ่งด้านล่าง เราเห็นแล้วแบบ OMG คือเริดเวอร์จ้า555 มีสัตว์เลี้ยงแปลกๆด้วย เป็น เต่าตัวใหญ่ๆ 2 ตัว มีแมงมุม และยังมีจระเข้อีกด้วย (จระเข้ตัวเล็กๆ แต่ก็ยาวเกือบฟุต เพื่อนเราตั้งชื่อให้เรียบร้อยเลยว่า ปีเตอร์ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่เห็นหน้าแล้วเหมาะกับชื่อนี้ดี ฮ่าๆ) โอเค เริ่มนอกเรื่องแล้ว กลับมาที่พลุกันเถอะ เรามีโอกาสได้ไปดูพลุตอนวันปีใหม่ของฮ่องกงมาแล้ว แต่คราวก่อนเราได้แต่ยืนมองจากถนนเฉยๆ ทีนี้ได้ทำเลดีเลยจัดเลย ถ่ายรูปเยอะแยะ พลุคราวที่แล้วมีความยาวประมาณ 12 นาทีมั้ง (จำไม่ได้ ไม่แน่ใจ55) คราวนี้ยาวประมาณเกือบ 20 นาที เราได้เรียนรู้ว่า ฮ่องกง มีเงินเยอะมาก ถ้าไม่มีเงินเยอะคงไม่สามารถจัดงานที่ยิ่ง

Temple fair Hong Kong

รูปภาพ
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ในช่วงตรุษจีนอีกแล้ว เอเอฟเอสจัดกิจกรรม Temple Fair ให้นักเรียนแลกเปลี่ยนไปดูแห่มังกร เขียนพู่กันจีน ดูโชว์ต่างๆ และมีแต่งชุดจีนด้วย เราก็เอาเลย ลงชื่อ อยากลองอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร แต่ละชุดคือจะมีความหมายชัดเจน เช่น ชุดนี้เป็นชุดของกษัตริย์ ชุดของเจ้าหญิง ชุดนางสนม หรือคนใช้ก็ว่ากันไป ส่วนเราได้ชุดของผู้ชายมาใส่ ต้องเข้าใจว่าคนที่ไปส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ชุดของเราเหมือนจะเป็นคนรับใช้เหมือนกัน แต่ระดับก็ไม่ได้ตำ่ขนาดนั้น55 กิจกรรมในครั้งนี้ถ้าไม่นับการที่ได้แต่งชุดจีนแล้วจะถือว่าน่าเบื่อ เราเลยถ่ายมาแต่รูปที่ได้แต่งตัวกับเพื่อน ในรูปที่สองจะเห็นว่าเรากับเพื่อนอีกคน (ชื่อ Sara มาจากอิตาลี) แต่งตัวเหมือนกัน คือมียศเท่ากัน เรื่องยศเราไม่อยากพูดมากเพราะก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน เดี๋ยวผิด55 สำหรับคนที่จะไปแลกเปลี่ยนที่ฮ่องกงแล้วอยากเข้าร่วมกิจกรรมนี้ แนะนำให้ไปเร็วๆ อาจจะได้เลือกชุดสวยๆก่อนคนอื่นจ้า

Fai chun writing class

รูปภาพ
วันนี้ว่างๆ เลยจะมาย้อนเขียนเรื่องเก่าในช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียนรอคอยเป็นอย่างมาก เพราะช่วงตรุษจีนเป็นเพียงช่วงเดียวที่เราสามารถหยุดเรียนได้อย่างไม่มีอะไรต้องกังวล ช่วงวันหยุดอื่นๆอย่างปีใหม่ หรืออีสเตอร์จะตามมาด้วยการสอบกลางภาคหรือปลายภาค  เอเอฟเอสก็มีกิจกรรมมาให้เราทำอีกแล้วววว นั่นคือการเขียน Fai Chun บางคนอาจจะไม่รู้จัก Fai Chun จริงๆแล้วมันคือข้อความภาษาจีนความหมายดีๆ (ส่วนใหญ่ที่เห็นจะมี 4 ตัวอักษร) ข้อความจะถูกเขียนลงบนกระดาษสีแดงแล้วนำไปติดไว้หน้าประตูบ้านในช่วงตรุษจีน  เหมือนให้สิ่งดีๆเข้ามา และนี่เป็นรูป Fai Chun ที่เราเขียนเอง คุณครูคนสอนชมด้วยว่าเขียนสวย55 หลงตัวเองแปป อิอิ อันสีขาวคือเป็นอันทดลอง คุณครูมีให้ฝึกก่อนด้วย โดยมีลิสต์คำและความหมายมาให้เราเลือกกันเอง ที่เราเขียนไปนี่ก็ลืมความหมายไปหมดแล้ว ใครรู้ช่วยบอกด้วยก็ดี5555 ภาพไม่ค่อยชัดเลยไม่รู้ทำไม อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้กดโฟกัส รูปสุดท้ายที่เห็นคือกับเพื่อนๆที่ไปด้วยกัน มีทั้งอิตาลี เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก และไทยนี่เอง55 หลังจากเขียนเสร็จแต่ละคนก็แยกย้ายกันไป เราไปกับ Jul

ปิกนิกในฮ่องกง

รูปภาพ
ทริปปิกนิกกับโรงเรียน โรงเรียนมัธยมที่ฮ่องกงจะมีทริปไปปิกนิกปีละครั้ง คล้ายๆกับทัศนศึกษาที่เมืองไทย โดยคุณครูจะมีสถานที่มาให้นักเรียนโหวต นักเรียนทุกคนสามารถโหวตที่ที่อยากไปได้ สถานที่ส่วนใหญ่ที่นักเรียนเลือกไปคือ "ต่าย เหม๋ ต๊ก" คือไกลมากเลย อยู่แถวๆ Tai Po Market (ถ้านึกภาพไม่ออกให้คิดว่ามันเกือบไปถึงเมืองจีนแผนดินใหญ่แล้ว 5555) "ต่าย เหม๋ ต๊ก" เป็นเหมือนคล้ายๆอุทยาน มีน้ำ มีต้นไม้ มีที่ให้เดินเล่น เรากับเพื่อนๆอยู่รวมกันเป็นห้อง ส่วนใหญ่แล้วก็เล่น กิน และถ่ายรูป ไม่ค่อยได้มีอะไรมาก55 วันปิกนิกคือวันเที่ยวเล่นของนักเรียนฮ่องกง นักเรียนจะได้พักผ่อนบ้างจากการเรียนหนังสือมาอย่างหนัก แถมรูประหว่างการไปทริปนี้  ตอนอยู่กับเพื่อนๆบนบัส ต่าย เหม๋ ต๊ก ได้เห็นธรรมชาติในฮ่องกงบ้างก็ดีเหมือนกัน อันนี้คือสมาชิกในห้องเราเอง (4A) ถ่ายกับเพื่อนๆ (เราคือคนเสื้อกันหนาวสีขาว) ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าเราและเพื่อนใส่เสื้อเหมือนกัน นั้นเป็นเพราะเรานัดกันใส่เสื้อห้องนั่นเอง ได้เพื่อนที่เก่งศิลปะทุกสุดในห้องเป็นคนออกแบบให้ สวยดี ขอโทษที่ไม่มีรูปให้เ

กีฬาสีโรงเรียนในฮ่องกง

รูปภาพ
โย่ววว ขอโทษจริงๆที่หายไปนาน พอดียุ่งๆกิจกรรมเยอะมาก เอเอฟเอสมีอะไรมาให้ทำตลอด55 วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องงานกีฬาสีในฮ่องกงกัน อันนี้จะพูดถึงของโรงเรียนเรานะ เด็กนักเรียนจะถูกแบ่งเป็น 4 บ้าน 4 สี มีสีแดง เขียว เหลือง น้ำเงิน ตัวเราเองได้อยู่สีเขียว ซึ่งที่นี่ไม่สามารถเปลี่ยนสีได้ทุกปีเหมือนที่ไทย ใครอยู่สีไหนก็สีนั้นไปเลยตั้งแต่ม.1 (form 1) นอกจากสีจะใช้ในเรื่องงานกีฬาสีแล้ว ยังใช้ในการแบ่งนักเรียนตอนมีกิจกรรมอื่นๆอีกด้วย อย่างเช่น การประกวดเชียร์ระหว่างบ้าน แข่งร้องเพลงคริสมาสต์ เป็นต้น งานกีฬาสีมีทั้งหมด 2 วัน ตั้งแต่เช้า 8.10 ที่สนามกีฬาแถว Yuen Long นักเรียนต้องเดินทางไปเอง ตัวเราก็เลยไปกับเพื่อนเพราะไม่รู้ทาง นักเรียนที่มีแข่งกีฬาจะต้องใส่ชุดพละ ถ้าไม่มีก็สามารถใส่ชุดนักเรียนปกติได้ จริงๆแล้วเราลงชื่อแข่งขว้างจักร กับทุ่มน้ำหนักไป แต่เหมือนคุณครูจะลืมใส่ชื่อเราลงไป ไม่ก็โดนคัดออกเลยไม่ได้แข่ง55 กีฬาสีจะเป็นวันที่น่าเบื่อมากสำหรับคนที่ไม่มีแข่งอะไรเลยเช่นเรา นักเรียนที่นี่สามารถเลือกนั่งตรงไหน ของสแตนเชียร์ก็ได้ เพราะไม่มีการแข่งเชียร์ของแต่ละสี ไม่มีเชียร์ลีดเดอร์อีกต่าง